จำปาดะ : ผลไม้อัตลักษณ์ประจำถิ่นสตูล


คนไทยรู้จักขนุนเป็นอย่างดี ส่วนจำปาดะนั้นมีคนอีกมากมายที่ไม่รู้จัก จำปาดะกับขนุนมีความใกล้ชิดกันทางพันธุกรรมทำให้มีการผสมข้ามพันธุ์หรือกลายพันธุ์เกิดเป็นจำปาดะขนุนซึ่งปัจจุบันพบที่จังหวัดสตูลและที่ตำบลเกาะยอ จังหวัดสงขลา อาจกล่าวได้ว่า ‘จำปาดะ’ เป

ข้าวพันธุ์อัลฮัมดุลิลละห์ : ผลผลิตที่พระผู้เป็นเจ้าประทาน


“ข้าวพันธุ์อัลฮัมดุลิลละห์” เป็นพันธุ์ข้าวที่ชาวไทยมุสลิมในจังหวัดสตูลนิยมปลูกและนิยมบริโภคมานาน ยาวนานมาตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย ไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ปี บอกเล่าต่อๆ กันมาว่า ชาวไทยมุสลิมบ้านโคกพิลา อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูลได้นำพันธุ์ข้าวอัลฮัมดุลิลละห

กล้วยไม้รองเท้านารีขาวสตูล : ความงดงามและบอบบางใต้ชะง่อนผา


กล้วยไม้รองเท้านารีหรือ ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Lady’s Slipper ได้ชื่อนี้จากลักษณะดอกที่ขอบปากงองุ้มเข้าหากันคล้ายหัวรองเท้าไม้ของชาวดัตช์ หนังสือพฤกษชาติเล่มแรกซึ่งออกโดยสมาคมพฤกษชาติแห่งประเทศไทยในความอุปถัมภ์ของกระทรวงเกษตราธิการ ๒๔๙๒ ใช้คำว่า“รอ

โต๊ะหยงกง : ความเชื่อ สิ่งเคารพของชาวสตูล


โต๊ะหยงกงหรือ โต๊ะยะกง อยู่ในเขตเทศบาลเมืองสตูล อยู่ใกล้ๆ คฤหาสน์กูเด็น บนหน้าผาภูเขาเล็กๆ ชื่อคล้ายภาษาจีนแต่เป็นศาลของอิสลามศักดิ์สิทธิ์มาก เขาโต๊ะหยงกง ถือเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์มีทวดชื่อ “โต๊ะ หยงกง” สถิตย์อยู่ ณ บริเวณเพิงหินที่ใช้เป็นที่ทำพิธี บ

ขนมต้มใบกะพ้อ ตูปะ : ขนมที่สื่อวัฒนธรรมของชาวสตูล


สตูลเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทั้งทางด้านประเพณีและวัฒนธรรม และความหลากหลายของวิถีการดำรงชีวิต ซึ่งวัฒนธรรมมีทั้งแบบดั้งเดิมของชาวพื้นเมือง คือ สิ่งศักสิทธิ์ (ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น) ผีสางนางไม้ รวมถึงบรรพบุรุษ และวัฒนธรรมใหม่ที่รับเข้ามาคือ

รูปแบบการแต่งกายและเครื่องประดับ


การแต่งกายของคนสตูลจะเป็นการผสมผสานของหลายชนชาติออกมาอย่างสวยงาม ซึ่งปัจจุบันชาวสตูลยังคงรักษา วัฒนธรรมการแต่งกายของสตรีขาวไทยพื้นเมือง ชาวไทยเชื้อสายมลายู และชาวไทยเชื้อสายจีน โดยปรับเปลี่ยนรายละเอียดให้เหมาะสมกับยุคสมัย ผสมผสานของหลายชนชาติออกมาอย

ปาเต๊ะ : ผืนผ้า พัสตราภรณ์ ที่ถักทอการแต่งกายตามวิถีสตูล


ชาวสตูลส่วนใหญ่รู้จักผ้าบาติก ในนามของชื่อผ้าปาเต๊ะ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย เผยแพร่เข้าสู่สตูล ซึ่งอาจเป็นอิทธิพลทางการค้าและศาสนา บาติกทางตอนใต้ของประเทศไทยจะนิยมเขียนภาพดอกไม้ ใบไม้ ภาพสัตว์ และลวดลายเครือเถาต่างๆ มีลักษณะเฉพาะถิ

คติความเชื่อ ค่านิยม


ชาวสตูลมีความเชื่อในเรื่องโชคลาภ เครื่องราง ของขลังและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ไม่แตกต่างจากจังหวัดอื่นในภาคใต้ จะเห็นได้ว่าบริเวณบ้านของชาวสตูลโดยเฉพาะที่นับถือศาสนาพุทธจะมีศาลพระภูมิเจ้าที่ ยกเว้นคนที่นับถือศาสนาอิสลาม ไม่มีพระ ศาสนาอิสลามไม่นิยมรู

ศาสนา ภาษา


ดังได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่าชาวสตูลส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ศาสนาพุทธและอื่นๆตามลำดับ มีสถานที่สำคัญทางศาสนาหลายแห่งทั้งวัดและมัสยิด ส่วนเรื่องภาษา ชาวสตูลมีมรดกทางวัฒนธรรมต้นภาษาที่มีลักษณะแตกต่างจากจังหวัดอื่นๆ สตูลจะมีภาษาถิ่นในสองลักษณะ คือ ภา

วัฒนธรรมด้านอาหาร


การกินของชาวสตูลมีทั้งส่วนที่คล้ายกับจังหวัดอื่นและส่วนที่แตกต่าง ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นอันสืบเนื่องมาจากสภาพทางภูมิศาสตร์และเกิดจากความเชื่อทางศาสนา ตลอดจนค่านิยมการกินของบุคคลในแต่ละท้องถิ่น ชาวสตูลนิยมอาหารเช้าเป็นกา

นายสิวเจียง แซ่โกย : ครูผู้อุทิศเวลาเพื่อเยาวชน


นายสิวเจียง แซ่โกย เกิด ณ มณฑลฮกเกี้ยน อำเภอแหล่งหนา ประเทศจีน เป็นบุตรนายจ้ายหลำ นางหย่งตี้ แซ่โกย ได้สมรสกับภรรยาเชื้อสายจีน มีบุตรธิดา จำนวน๙คนนายสิวเจียง แซ่โกย ได้รับการศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนประถมไคหมิงจนจบชั้นประถมปีที่ ๓ก็ย้ายไปศึกษาต่อโร

นายเจ๊ะอับดุลลา หลังปูเต๊ะ : รัฐมนตรีคนที่ ๒ ของสตูล


นายเจ๊ะอับดุลลาหลังปูเต๊ะ เกิดเมื่อวันที่ ๑๖ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๓๓ณ บ้านทำเนียบตำบลโกตาอำเภอละงูบิดาชื่อนายเจ๊ะมูฮำมัดสะอาดมารดาชื่อนางเจ๊ะรอมะห์นามสกุลเดิม หวันสู นายเจ๊ะอับดุลลาหลังปูเต๊ะได้ศึกษาภาษามลายูจนสำเร็จชั้นปีที่ ๓บริบูรณ์มีความรู้ด้านภาษามลายู

พระยาสมันตรัฐบุรินทร์ (บุรินทร์ สมันตรัฐ) : จากเจ้าเมืองสู่รัฐมนตรีคนแรกของจังหวัดสตูล


อำมาตย์เอกพระยาสมันตรัฐบุรินทร์มีชื่อเดิมว่า ตุ๋ย บินอับดุลลาห์ มีชื่อมุสลิมว่าหวันฮูเซ็นเป็นบุตรคนที่ ๑๒ของหลวงโกชาอิศหาก (เกิด ) กับนางเลี๊ยบซึ่งมีเชื้อสายจีน เกิดเมื่อวันที่๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๑๔ ที่ตำบลบางลำพูล่างอ.คลองสานจ.ธนบุรี นามสกุล "บินอับดุ

มหาอำมาตย์ตรีพระยาภูมินารถภักดี : ยุครัฐและประชาชนร่วมกันสร้างบ้านแปงเมือง


พระยาภูมินารถภักดี เดิมชื่อ กูเด็น บิน กูแมะ คำว่า “บิน” แปลว่า “เป็นบุตรชายของ” ตามประเพณีของมลายูนั้นไม่มีนามสกุลแต่จะบอกชื่อบิดาไว้เพื่อให้จำแนกบุคคลได้เท่านั้นพระยาภูมินารถภักดีหรือกูเด็น บิน กูแมะ เป็นบุตรคนที่ ๖ ของนายกูแมะกับนางเจ๊ะจิเกิดที่ต

ตนกูมูฮัมหมัดอาเก็บ : ผู้สร้างบ้านแปงเมือง


ตนกูมูฮัมหมัดอาเก็บ เป็นบุตรของพระยาอภัยนุราช ตนกูบิสนูต้นตระกูลสนูบุตรเกิดที่เคดาห์ ไทรบุรี ตรงกับพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยรัชกาลที่ ๒ ครองราชย์เมื่อครั้งยังเยาว์ตนกูมูฮัมหมัดอาเก็บได้ลี้ภัยสงครามไปอยู่ที่เมืองมะละกากับตนกูปะแงรันผู้เป็นลุง

ท่าเรือสุไหงอุเปหรือทุ่งหว้า


คำว่าสุไหงอุเป เป็นภาษามลายู “สุไหง” แปลว่า คลอง “อุเป” แปลว่า กาบหมาก ท่าเรือแห่งนี้ตั้งอยู่ในตำบลทุ่งหว้า อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล เป็นท่าเรือเก่าแก่พอๆกับท่าเรือปากบารา ซึ่งในอดีตมีความรุ่งเรืองมาก เนื่องจากว่าอำเภอทุ่งหว้าเป็นแหล่งปลูกพริกไ

ท่าเรือปากบารา


ตั้งอยู่ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล ท่าเรือปากบาราหรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า กัวราบารา ซึ่งเป็นภาษามลายู “กัวรา” แปลว่า ปากน้ำ ส่วน “บารา” แปลว่า ถ่านที่กำลังติดไฟอยู่ ท่าเรือแห่งนี้เป็นท่าเรือเก่าแก่ ในอดีตเป็นที่พักหรือจอดเรือรับสินค้าโดยเฉพาะถ

คลองมำบัง


คำว่า “มำบัง” มาจากภาษามลายู แปลว่า “ปิด” ต้นน้ำของคลองมำบังเกิดจากสายน้ำเล็กๆ หลายสายบริเวณเทือกเขาอำเภอควนกาหลงกับอำเภอควนโดน ไหลผ่านหมู่บ้านหลายแห่ง เช่น บ้านดุสน อำเภอควนโดน ช่วงนี้จะเรียกว่าคลองดุสน ผ่านตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล เรียกว่าคลองฉ

คลองละงู


อยู่ในเขตอำเภอละงู จังหวัดสตูล ต้นกำเนิดของคลองสายนี้เกิดจากทิวเขาในเขตจังหวัดตรัง และ จังหวัดพัทลุงซึ่งมีลักษณะเป็นแอ่งน้ำบนภูเขาไหลลงเป็นน้ำตก ไหลผ่านอำเภอมะนังที่บ้านป่าพน บ้านวัง พะเคียน เข้าเขตอำเภอควนกาหลง ตำบลอุไดเจริญ เรียกชื่อคลองช่วงนี้ว

คลองทุ่งหว้า


คลองทุ่งหว้าอยู่ในเขตอำเภอทุ่งหว้า เกิดจากสายน้ำเล็กๆ หลายสายบริเวณเทือกเขาบรรทัด ไหลมารวมกันที่บ้านทุ่งดินลุ่ม บ้านป่าแก่บ่อหิน บ้านโล๊ะไฟ ตำบลป่าแก่บ่อหิน อำเภอทุ่งหว้า จากนั้นก็ไหลผ่านบ้านท่าขาม บ้านท่าอ้อย แล้วแยกออกเป็นสองสาย สายหนึ่งออกสู่ทะเลบ

สูไงอูเปะฮฺ : ปีนังน้อยแห่งเมืองสตูล


เมื่อพ.ศ. ๒๕๔๘ สภาวัฒนธรรมจังหวัดสตูลได้แปลบันทึกจดหมายเหตุพระยาภูมินารถภักดีจากภาษามลายูจำนวน ๒ เล่มเป็นภาษาไทย และพิมพ์เผยแพร่เมื่อพ.ศ. ๒๕๕๐ โดยตั้งชื่อหนังสือว่า "บันทึกจดหมายเหตุพระยาภูมินารถภักดี พ.ศ. ๒๔๓๙ -๒๔๔๓" ถึงแม้ว่าการแปลจดหมายเหตุพระย

กำปงจีนา – บ้านจีน : เรื่องของซัวเต๊ง และ อาคารไม้ ๑๐๐ ปี


บ้านจีน เดิมเป็นหมู่บ้านเรียกเป็นภาษามลายูว่า “กำปงจีนา” หมายถึง หมู่บ้านที่มีชาวจีนกลุ่มใหญ่ตั้งถิ่นฐานอยู่ นั่นเอง ซึ่งมีหลักฐานอ้างอิงได้ว่า ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมืองสตูลอยู่ในสถานะเป็น มูเก็ม

ถนนบุรีวานิช : จุดเริ่มต้นของถนนมำบังนังคะรา-บ้านจีน


ถนนบุรีวานิชถนนสายแรกของมำบังนังคะรา ในอดีต ยุคของพระยาภูมินารถภักดีเป็นผู้ว่าราชการเมืองสตูลถนนนี้เป็นจุดเริ่มต้นของถนน มำบังนังคะรา - บ้านจีน และเป็นต้นทางของถนนสามสายในเวลาต่อมา ถนนบุรีวานิชเริ่มต้นจากป้อมยามตำรวจทอดยาวมาสิ้นสุดตรงแยกด้านข้างมัสยิ

สตูล : สมัยรัตนโกสินทร์


สมัยรัชกาลที่ ๑ ในสมัยรัชกาลที่ ๑ อังกฤษขอเช่าเกาะหมากจากพระยาไทรบุรี (ตนกูอับดุลละ โมกุลรัมซะ) เจ้าพระยาไทรบุรีๆ เกรงไทยจะลงไปปราบเช่นเดียวกับปัตตานี จึงตกลงให้อังกฤษเช่าเกาะหมากภายใต้เงื่อนไขว่าอังกฤษต้องส่งกำลังมาช่วยเมืองไทรบุรีในกรณีที่มีศั