ตำนาน "โต๊ะฆีรี" ผู้ปกปักรักษาเกาะหลีเป๊ะ

รายละเอียด

“โต๊ะฆีรี” หรือ “โต๊ะคีรี” ผู้เป็นบรรพบุรุษที่ได้รับการเคารพนับถือจากชาวอุรักลาโว้ยบนเกาะหลีเป๊ะ ท่านถือเป็นเสาหลักในการรักษาความสงบสุขและความมั่นคงให้กับชุมชน จนทุกวันนี้ยังคงมีการจัดพิธีและประเพณีเพื่อระลึกถึงท่านอยู่เสมอ

ตั้งแต่ก่อนทศวรรษที่ 2440 ชาวอุรักลาโว้ยเริ่มเดินทางและตั้งถิ่นฐานบนเกาะหลีเป๊ะและหมู่เกาะอาดัง-ราวี โดยตามคำเล่าขาน โต๊ะฆีรีได้ล่องเรือมาจากเกาะอาเจ๊ะห์ และระหว่างทางได้หยุดพักที่ฆูนุงณึรัย บนคาบสมุทรมลายู ก่อนจะเดินทางต่อไปพร้อมเพื่อนรวม 4 คน ได้แก่ โต๊ะเอ็ม โต๊ะบือโดย แจบิแนะ โดยได้แวะพักที่เกาะลีดีและเกาะบุโหลนใหญ่ ก่อนจะเดินทางไปยังหมู่เกาะต่างๆ ในทะเลอันดามัน

เมื่อเพื่อนของโต๊ะฆีรีตั้งถิ่นฐานและแต่งงานที่เกาะลันตา แต่โต๊ะฆีรียังคงเดินทางต่อไป โดยได้พาแจบิแนะออกเดินทางจนมาถึงเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งเต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และมีน้ำจืดที่เหมาะสมแก่การอยู่อาศัย ท่านจึงตัดสินใจตั้งหลักปักฐานที่นี่ พร้อมชักชวนครอบครัวและเครือญาติให้ย้ายมาด้วยกัน ซึ่งในช่วงนั้นมีการตั้งชุมชนขึ้นประมาณ 10 ครอบครัว

แม้ว่าต้นกำเนิดของโต๊ะฆีรีจะมาจากเกาะอาเจ๊ะห์ แต่ชาวอุรักลาโว้ยที่เกาะหลีเป๊ะและหมู่เกาะอาดัง-ราวี ต่างเคารพนับถือท่านเป็นบรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปกป้องชุมชนจากภัยอันตรายต่างๆ โดยเฉพาะการเผชิญหน้าโจรสลัดและภัยคุกคามจากต่างชาติ

จากคำบอกเล่าของชาวบ้าน พระยาภูมินารถภักดี เจ้าเมืองสตูล ได้เดินทางมาพบโต๊ะฆีรีที่เกาะหลีเป๊ะ และได้ขอให้ท่านชักชวนชาวเลจากเกาะต่างๆ มาตั้งถิ่นฐานที่เกาะหลีเป๊ะเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าแผ่นดินนี้เป็นของราชอาณาจักรสยาม เนื่องจากในขณะนั้น รัฐบาลอังกฤษซึ่งปกครองมลายู กำลังต้องการขยายอำนาจไปยังหมู่เกาะหลีเป๊ะและอาดัง-ราวี และพื้นที่อื่นๆ ของสยาม

ในยุคของจักรวรรดินิยม อังกฤษซึ่งขยายอาณาเขตครอบครองอินเดีย พม่า และแหลมมลายู ได้ทำการสำรวจเกาะต่างๆ ในทะเลอันดามันและตั้งใจจะรวมเกาะหลีเป๊ะเข้ากับอาณาจักรมลายู แต่ชาวอุรักลาโว้ยและชาวไทยสยามได้ร่วมกันประกาศว่า "เราเป็นชาวสยาม" เป็นการยืนยันอธิปไตยของราชอาณาจักรสยาม ต่อมาในวันที่ 10 มีนาคม 2452 สยามและอังกฤษได้ลงนามในสัญญาแบ่งเขตดินแดน ทำให้เกาะหลีเป๊ะรอดจากการถูกยึดครอง

การปกป้องเกาะหลีเป๊ะและหมู่เกาะใกล้เคียงในครั้งนั้น ทำให้ชาวเลที่ย้ายมาถึงเกาะหลีเป๊ะในยุคนั้นได้กลายเป็นผู้ร่วมพิทักษ์อธิปไตยและอาณาเขตของราชอาณาจักรสยามในทะเลอันดามัน และจนถึงทุกวันนี้ พวกเขายังคงภาคภูมิใจในบทบาทนี้ โดยได้รับพระราชทานนามสกุล "หาญทะเล" อันหมายถึงผู้กล้าแห่งทะเล ผู้ปกป้องและยืนหยัดในอธิปไตยของแผ่นดินไทย