นกฮูก หรือ อินธนู ทำไมถึงไปอยู่บนหม้อ
0
หากได้เดินเข้าไปในพื้นที่บ่อสวกตามลำน้ำสวกและห้วยปวน
เมื่อเพ่งมองดีๆ...
เรามักจะพบเนินดินที่มีเศษเครื่องปั้นดินเผากระจายอยู่ทั่วไป และอาจพบสิ่งก่อสร้างที่คล้ายปล่องของเตาเผาโผล่มาเหนือเนินดิน
1
แหล่งอุตสาหกรรมเครื่องปั้นดินเผาโบราณ
บ่อสวกแต่เดิมอาจเป็นแหล่งเตาเผาขนาดใหญ่
สอดคล้องกับพงศาวดารเมืองน่านว่า มี “บ้านเตาไหแช่เลียง”อยู่ในบริเวณนี้ จากการสันนิฐานของกรมศิลปากร คาดว่ามีซากเตาโบราณไม่ต่ำกว่า
50 เตาอยู่ในบ่อสวกแห่งนี้ และบ่อสวกเป็นแหล่งทำเครื่องปั้นดินเผาขนาดใหญ่
ในระดับอุตสาหกรรม ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 700 ปีก่อน
...
เทคนิคของบ่อสวกอาจนับได้ว่าแตกต่างจากเตาเผาในยุคเดียวอย่างเตาเผาทุเรียง ในศรีสัชนาลัย เนื่องจากเราพบ “จ๊อ” กล่องดินเหนียวภายในเตาของบ่อสวก กล่องดินเหล่านี้ ใช้ครอบภาชนะป้องกันไม่ให้เสียหาย ซึ่งวิธีการเช่นนี้ อาจเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำไปกว่าแหล่งเตาในบยุคเดียวกัน หากดูดีๆ ในบรรดาภาชนะที่กลายเป็นเศษ มีทั้งเป็นภาชนะเนื้อดินธรรมดาไม่เคลือบ และเนื้อแกร่งที่มีการเคลือบสีด้วยสีขาวนวล สีเขียวนวล สีเขียวแกมน้ำตาล สีดำ เป็นต้นมีหลากหลายรูปแบบ ชามและจาน ครก ไหแบบปากชั้นเดียวและสองชั้น พระพิมพ์ พาน คันโถ และมีกระทั้ง ตุ๊กตารูปคน และตุ๊กตารูปสัตว์ เป็นต้น
2
ลายบ่อสวก...
นอกจากเนื้อเครื่องปั้นดินเผา
สี และเทคนิคการเผาแล้ว ที่มีลักษณะเฉพาะแล้ว บ่อสวกยังมีลายที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนบ่อสวกหรือคนเมืองน่านสมัยก่อน
...
ในช่วงพุทธศตวรรษที่
20-21 แหล่งเตาเผาบ่อสวกมีรุ่งเรืองอย่างมาก และปรากฏ “ลายบ่อสวก” บางที่ก็เรียก “ลายน่าน”
ที่มองดูเป็น นกฮูกหรือนกเค้าแมว
ซึ่งพอถูกล้อมรอบด้วยกรอบกลีบดอกบัว ก็ดูคล้าย อินธนู ตามความเชื่อของชุมชนเชื่อกันว่า
ลายนกฮูก เป็นลายที่แทนสัญลักษณ์ของผู้มีวิสัยทัศน์ เพราะนกฮูกเป็นนกกลางคืนมองได้ดีแม้มีความมืดมนในตอนกลางคืน
เปรียบได้ว่า ส่วน อินธนู ก็เป็นสัญญาลักษณ์ของ อำนาจวาสนา และส่งเสริมบารมี ผู้ครอบครองลายเหล่านี้ก็จะมีวิสัยทัศน์ดั่งเช่นนกฮูก
และมีอำนาจวาสนา
…
หลายเหล่านี้มักปรากฏเป็นลายปั้นแปะบนปากหม้อ
ปากไห ซึ่งเป็นลายเฉพาะและเป็นเอกลักษณ์ของบ่อสวก
...
ด้วยลักษณะของภาชนะดินเผาที่เป็นบ่อสวกทำกลายเป็นสินค้าส่งออกไปไกลถึงแถวภาคตะวันตกของไทย และอาจจะถึงบริเวณอ่าวแบงกอลของประเทศพม่าในปัจจุบัน ตามเส้นทางการค้าเครื่องปั้นดินเผาโบราณ
3
อิทธิพลในปัจจุบัน
ลายบ่อสวก ได้ถูกรื้อฟื้นในงานเครื่องปั้นดินเผาของบ่อสวกในปัจจุบัน กลายเป็นสินค้าของฝากที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้โรงทอผ้าบ้านซาวหลวงได้ทอดแบบกลายเป็นลายผ้าทอ ที่กลายเป็นผ้าทอประจำถิ่นที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร ใครสวมก็เชื่อว่าจะได้รับพร ตามสัญลักษณ์ของลายบ่อสวก