ต้นตะบูนปู่ย่า 200 ปี รุกขมรดกของประเทศ


0

จากแพที่บ้านท่าระแนะ

เรานั่งเรือมาพอสมควร ผ่านป่าชายเลนผืนใหญ่

ไม่นานเราก็ถึงจุดขึ้นเรือ ที่เราจะต้องออกแรงเดินผ่านแสดงทางธรรมชาติ ที่ทำด้วยไม้ ที่กันไม่ให้เราเหยียบย้ำต้นไม้ป่าชายเลนานาชนิด

ไม่นานหนัก พอที่เราจะต้องยกน้ำมาจิบพอแก้กระหายสักสองสามอึก และอาจจะสองสามครั้งที่เราต้องยกน้ำมาดื่ม

เราก็มาถึง

.....


1

มหัศจรรย์ลานตะบูน

ณ ใจกลางของป่าชายเลนท่าระแนะ เราจะได้พบป่าต้นตะบูน ขนาดค่อยข้างใหญ่ ต้นตะบูนมีราก กระจายไปทั่ว จนสานกันเป็นรางแห ทำให้พื้นของต้นตะบูนปกคลุมด้วยด้วยรากของมันจนแทบไม่มีพื้นที่ว่างให้พืชชนิดอื่นจะเจริญเติมโต แผ่กิ่งก้านสาขามาอวดใบได้เลย ต้นตะบูนจึงได้รับบทบาทบุกเบิกของระบบนิเวศป่าชายเลน

...

แต่เดิมชุมชนท่าระแนะใช้ลานรากตะบูนเป็นที่นั่งพักเมื่อเข้ามาวางลอบไม้ดักปู เพราะตามแนวรากตะบูน จะมีสัตว์น้ำต่างๆ เช่น ลูกปู ลูกหอย เข้ามาหลบอาศัย จึงนับได้ว่าเป็น ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ชุมชนเข้ามาจับสัตว์น้ำเุปเปอร์มาร์เก็ต” นท่าระแนะได้จากทรัพยากร ในป่าท่าระแนะป็นอาหาร และนำไปขายหารายได้เล็กๆ น้อย พอเลี้ยงชีพ

...


ด้วยความที่มีต้นตะบูนขึ้นอย่างหนาแน่น ในพื้นที่ ประมาณ 2 ไร่ กลายเป็น อาณาจักรของต้นตะบูน ภายในอาณาจักรนี้ก็มีต้นรที่ใหญ่ที่สุดเรียกว่า ต้นปู่ และต้นย่า ยืนต้นอยู่ไม่ไกลกัน อายุของ ต้น ปู่ ต้นย่า สันนิฐานว่ามีอายุมากกว่า 200 ปี ด้วยความที่เป็นอาณาจักร และโดเด่นเช่น ป่าต้นตะบูนท่าระแนะ จึงได้รับการยกย่องให้เป็น “รุกขมรดก” ของประเทศ ที่หาที่ไหนเหมือนได้ยาก

...



ด้วยเป็นพื้นที่ที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ทำให้ชุมชนเล็งเห็นประโยชน์ และช่วยกันอนุรักษ์ลานรากตะบูนไว้ ต่อมาชุมชนได้รวมกลุ่มกันทำให้ลานรากตะบูนนี้ เป็นเส้นทางเดินธรรมชาติ ซึ่งตลอดแนวทางเดินของลานตะบูนนี้จะมีที่นั่งพักผ่อน จุดถ่ายภาพ นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด รวมไปถึงมีกิจกรรมโยนโบว์ลิ่งลูกตะบูน ซึ่งเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์และสนุกสนาน โดยนำทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้